ผู้เขียน หัวข้อ: หมอประจำบ้าน: หัดกุหลาบ ลูกเป็นส่าไข้  (อ่าน 133 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 434
  • รับโปรโมทเว็บ ราคาประหยัด
    • ดูรายละเอียด
หมอประจำบ้าน: หัดกุหลาบ ลูกเป็นส่าไข้
« เมื่อ: วันที่ 6 กันยายน 2024, 18:27:04 น. »
หมอประจำบ้าน: หัดกุหลาบ ลูกเป็นส่าไข้

หัดกุหลาบ หรือ ส่าไข้เป็นลักษณะโรคที่มักเกิดกับเด็กเล็กมาก โดยเมื่อป่วยจะมีอาการไข้สูงในช่วง 3-5 วันแรก หลังจากนั้นไข้ลดลงและมีผื่นแดง (ส่า) ขึ้นตามตัวแทน


หัดกุหลาบ ส่าไข้คืออะไร

ส่าไข้เป็นลักษณะโรคที่มักเกิดกับเด็กเล็กมาก โดยเมื่อป่วยจะมีอาการไข้สูงในช่วง 3-5 วันแรก หลังจากนั้นไข้ลดลงและมีผื่นแดง (ส่า) ขึ้นตามตัวแทน พบได้บ่อยในเด็กช่วง 6-24 เดือน


สาเหตุของหัดกุหลาบ ส่าไข้

ส่าไข้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง Human Herpesvirus Type 6 (HHV 6) โรคนี้มีชื่อทางการแพทย์ว่า Roseolar Infantum (หัดดอกกุหลาบ) หรือ Exantham Subitum หรือ Sixth Disease ซึ่งสามารถติดต่อผ่านทางน้ำลาย เช่น ไอ จาม หลายกรณีที่เด็กติดจากผู้ใหญ่ที่มีเชื้อไวรัสอยู่แต่ไม่แสดง

อาการ

อาการของส่าไข้เป็นแล้วก็สามารถหายได้เองในไม่กี่วัน แต่ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนและดูแลลูกในช่วงมีไข้ไม่ให้มีอาการลุกลาม ควรปรึกษาคุณหมอหากอาการไม่ดีขึ้น หรือหากมีอาการชัก ควรรีบพาลูกไปตรวจรักษาทันที


รับมือหัดกุหลาบ ส่าไข้

    เมื่อลูกมีไข้ควรหมั่นเช็ดตัวลูกบ่อยครั้งอย่างเบามือ เพราะโรคส่าไข้จะทำให้เด็กมีอาการไข้สูง อาจสูงได้ 40 องศาเซลเซียส ซึ่งเด็กบางคนอาจมีโอกาสชักได้ถึง 10-15%

    ให้ลูกจิบน้ำบ่อยครั้ง เพื่อลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกายลง

    รับประทานยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ตามอาการป่วยที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ควรเป็นยาที่คุณหมอแนะนำ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง

    หากลูกงอแง คุณพ่อคุณแม่อาจจะอุ้มเดิน ลูบที่หลังเบา ๆ อย่าดุหรือตวาดเพราะจะยิ่งทำให้ลูกไม่สบายใจและงอแงเพิ่มขึ้นไปอีก

    ควรอยู่กับลูกตลอดเวลา ไม่ควรปล่อยให้เป็นหน้าทีพี่เลี้ยง เพราะการได้ใกล้ชิดพ่อแม่จะทำให้ลูกสบายใจขึ้น

ผื่นจะเกิดขึ้นหลังวันที่ไข้ลดประมาณวันที่ 3-5 นั้น คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องทายา ทาแป้ง หรือถูแรงเพื่อให้ผื่นหายเร็วๆ อาจจะทำให้ผิวบางๆ ของลูกอักเสบ ควรเช็ดตัวอย่างเบามือเช่นเคยค่ะ

ผื่นจากส่าไข้จะไม่ทำให้ลูกน้อยคันแต่อย่างใด แต่หากลูกคันอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น ซึ่งควรพบคุณหมอจะดีกว่า หากดูแลเกิน 3-5 วัน ไข้ยังไม่ลด อาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ มีอาการชัก อาเจียน หายใจหอบ ควรปรึกษาแพทย์เช่นกันค่ะ

เพราะโรคนี้เป็นเองหายเอง เพียงแต่ระหว่างที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลลูกน้อยอย่างดี เพราะอาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น อาการชักเพราะไข้สูงเกิดนั้นเองค่ะ


หากลูกน้อยเป็นโรคหัด ในวันที่ 4 ของอาการไข้ ลูกน้อยจะมีผื่นขึ้น มีอาการไอที่รุนแรงมากกว่า โดยผื่นจะเริ่มขึ้นบริเวณหน้าก่อน ลามมาตามตัวไปจนถึงขา เมื่อผื่นถึงขาแล้วไข้จึงจะลด และหลังผื่นหายอาจจะมีรอยดำจางๆ ขณะที่ส่าไข้จะไม่เหลือรอยจางใดๆ ที่ผิวลูกน้อย ลักษณะตุ่มหนองหรือตุ่มใส คืออาการของโรคอีสุกอีใส และหากมีตุ่มหนองก็ควรรีบพบคุณหมอ เพราอาจจะเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดรุนแรง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ค่ะ